MOVIE REVIEW AND STORYLINE: THE PARADISE OF THORNS

Movie Review and Storyline: The Paradise of Thorns

Movie Review and Storyline: The Paradise of Thorns

Blog Article

รีวิวหนัง "วิมานหนาม The Paradise of Thorns"


Movie Review and Storyline The Paradise of Thorns



ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง: วิมานหนาม The Paradise of Thorns


ประเภท: ดรามา / ระทึกขวัญ


ผู้กำกับ: นฤเบศ กูโน


นำแสดงโดย: เจฟ ชาเตอร์, อิงฟ้า วราหะ, สีดา พัวพิมล


ความยาว: 125 นาที


กำหนดฉายในไทย: 22 สิงหาคม 2024 (ในโรงภาพยนตร์)




 

เรื่องย่อ


วิมานหนาม เป็นเรื่องราวของ ทองคำ และ เสก  คู่รักหนุ่มชาวสวน ช่วยกันปลูบ้านและทำสวนทุเรียนบนที่ดินของเสกที่ติดจำนองอยู่ ทองคำใช้เงินก้อนใหญ่ทั้งหมดในชีวิตไถ่ถอนที่ดินให้เสก จนได้มาซึ่งโฉนดที่ดิน อันเปรียบเสมือนทะเบียนสมรสของคนทั้งคู่ พวกเรากำลังจะได้พบกับความสุข แต่แล้ว เสก เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต บ้านและสวนจึงต้องตกเป็นของ แม่แสง แม่ของเสก ผู้มีสิทธิ์ตามกฎหมาย ในเวลาต่อมา แม่แสงได้พา โหม๋ ลูกสาวที่เก็บมาเลี้ยง รวมทั้ง จิ่งนะ น้องชายของโหม๋ เข้ามาถือสิทธิ์ครอบครองวิมานแห่งนี้ ทองคำ จึงต้องทำทุกสิ่งเพื่อทวงคืนบ้านทุกตารางเมตร สวนทุกตารางนิ้ว รวมถึงทุเรียนทุกลูก ที่เขาควรจะมีสิทธิ์เป็นเจ้าของ แต่โหม๋เองก็พร้อมทำทุกอย่างเพื่อปกป้องแม่แสงและทุกกรรมสิทธิ์ที่ควรเป็นของครอบครัวเช่นกัน ดูหนัง 2024 โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่ต้องสมัครสมาชิกให้ยุ่งยาก ได้แล้ววันนี้

 

นี่คือผลงานการสร้างหนังเรื่องแรกของผู้กำกับรุ่นใหม่ไฟแรงฝีมือจัดจ้าน "บอส-นฤเบศ กูโน" ที่เคยสร้างชื่อไปทั่วภูมิภาคจากผลงานซีรีส์ แปลรักฉันด้วยใจเธอ เมื่อไม่กี่ปีก่อน กลับมาคราวนี้ก็ยังคงมาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ความดรามา ที่อาจจะเพิ่มอรรถรสความจัดจ้านยิ่งขึ้นแบบทวีคูณ พร้อมกับเอกลักษณ์เส้นเรื่องที่สะท้อนถึงประเด็นความเท่าเที่ยมทางสังคมและวิถีชีวิตของชาว LGBTQ อีกเหมือนเคย แน่นอนว่า บอส นฤเบศ ยังคงร่วมเขียนบทหนังเรื่องนี้ด้วย พร้อมกับดึงนักเขียนบทคู่ใจของเขา ที่เคยร่วมกันปั้นซีรีส์ แปลรักฉันด้วยใจเธอ ออกมาให้ประสบความสำเร็จมาด้วยกัน อย่าง จูเนียร์-ณรณ เชิดสูงเนิน กับ เกด-การะเกด นรเศรษฐาภรณ์ กลับมาฟอร์มทีมสร้างสตอรีหนังเรื่องนี้ด้วยกัน ที่พบว่าบทหนังเรื่องนี้ก็มีความเป็นละครไทยและละครน้ำเน่าหลังข่าวอยู่ประมาณหนึ่งเช่นกัน

 

หากใครเป็นคนที่ดูละครไทยอยู่แล้ว พล็อตแนวนี้ก็ไม่ต่างจากพวกศึกแม่ผัวลูกสะใภ้แบบดรามาจัด ๆ เรื่องหนึ่ง แต่ว่าบนพื้นฐานของบทหนังที่ค่อนข้างใส่สูตรสำเร็จเข้ามาอยู่แล้ว กลับได้รับการทรีเมนต์และตกผลึกออกมาเป็นงานที่ละเอียดยิ่งขึ้น เป็นการเปิดศึกแย่งชิงสินทรัพย์ที่เต็มไปด้วยการใช้จิตใจสำนึกแลอารมณ์ของมนุษย์ ณ ห้วงเวลานั้นมาขับเคลื่อนได้อย่างมีมิติ กลายเป็นละครโรงใหญ่ที่บดขยี้ออกมาได้อย่างจัดจ้านและทำได้ถึงในแง่การสร้างอรรถรสการเป็นงานศิลปะดรามาและบันเทิง ได้แบบมองข้ามจุดบกพร่องต่าง ๆ ไปได้ กลายมาเป็นงานบทหนังไทยที่ค่อนข้างเฉียบเรื่องหนึ่ง สิ่งหนึ่งที่ยังไว้วางใจในชิ้นงานของหนังจากค่ายจีดีเอชได้เสมอ ๆ ก็คือความละเอียดของงานสร้าง ที่ต้องยอมรับฝีมือของทีมผู้สร้างจากค่ายนี้อีกครั้ง ที่ยังใส่ใจและเก็บดีเทลในแต่ละภาคส่วนได้อย่างเนี๊ยบอีกครั้ง

 

ที่ประทับใจมาก ๆ ก็คือการหาโลเคชันสถานที่ถ่ายทำ สวนทุเรียนภูเขาที่มีแลนด์สเคปที่เกินจะบรรยาย เป็นการเซ็ตฉากที่สร้างความแปลกใหม่ให้กับหนังไทยดี ซ้ำยังใช้พื้นที่หลัก ๆ ที่ จ.แม่ฮ่องสอน ในถ่ายทำ ที่ทำให้ได้งานสร้างและงานภาพที่เน้นความเป็นธรรมชาติและแสงสีที่ใช้แวดล้อมดึงดูดความโดดเด่นในอารมณ์หนังออกมาได้อย่างมีเสน่ห์ ถึงแม้ว่าในส่วนของงานประพันธ์ดนตรีประกอบในวิมานหนาม มักจะกระชากใจคนดูให้พลอยนึกไปถึงอารมณ์ละครน้ำเน่า หรือซีรีส์เกาหลีแนวเมโลดรามาอยู่บ่อย ๆ ก็ตาม แต่ก็มาวาดลวดลายบิวท์อารมณ์หนังด้วยท่วงทำนองที่ตราตรึงได้เป็นอย่างดี เช่นกันกับงานกำกับภาพในหนังเรื่องนี้ ที่ออกมาเป็นความเฉียบคมในทุก ๆ วิสัยทัศน์ที่ถ่ายทอดออกมา เป็นหนึ่งในงานถ่ายภาพหนังไทยที่โดดเด่นและชวนบาดลึกเข้าไปกับเนื้อหาได้แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ขณะที่ในส่วนการแสดงเป็นองค์ประกอบที่แทบจะไม่ต้องเป็นห่วงใด ๆ เลย เพราะทีมนักแสดงชุดนี้เอาอยู่จริง ๆ "เจฟ ชาเตอร์" ที่จริง ๆ ก็ยังมีชั่วโมงบินทางการแสดงไม่เยอะ ซึ่งเรื่องนี้ก็ยังเป็นการเล่นหนังเรื่องแรกของเขา แต่การดีไซน์บทบาทตัวละครนี้ของเขา สามารถทำออกมาได้ชัดเจน และพรั่งพรูออกมาในด้วยลักษณะของความเป็นเจฟแบบเฉพาะตัว จึงทำให้เขาแบกรับหนังเรื่องนี้เอาไว้ได้สบาย ๆ พร้อมกับจังหวะและท่วงท่าในการต่อบทกับนักแสดงท่านอื่นที่ถึงแก่นดีไม่น้อย


 

ความรู้สึกที่ได้จากการรับชมหนัง


โดยภาพรวมแล้วนั้น วิมานหนาม ก็เป็นหนังดรามารสชาติจัดจ้าน ที่อรรถรสแบบละครไทยโรงใหญ่ ในแง่ของพล็อตและบทอาจจะไม่มีอะไรที่เหนือความคาดหมายมากนัก แต่ก็สามารถขยี้เรื่องราวความน้ำเน่าเหล่านั้นออกมาได้ชวนชม ด้วยการบดแหลกและจี้จุดจิตใต้สำนึกแห่งความทะเยอทะยานของมนุษย์ออกมาได้อย่างถลำลึก กลายเป็นหนังที่เต็มไปด้วยความจัดจ้าน และทุก ๆ ตัวละครต่างก็มีมิติเป็นของตัวเอง ไม่ได้ถูกลอยแพทิ้งเอาไว้กลางทาง นับว่าเป็นงานสร้างหนังไทยดรามาหนัก ๆ ที่โดดเด่นด้วยพลังจัดจ้านทางการแสดงของทีมนักแสดงยกชุดที่ช่วยกันขับเคลื่อนหนังเรื่องนี้ไปได้ดีตลอดทั้ง 2 ชั่วโมงเต็ม ในแง่ความสดใหม่อาจจะยังไม่ได้มีเยอะแยะอะไร เพียงแค่อาจจะแปลกใหม่เมื่อมาอยู่ภายใต้แบรนด์ค่ายหนังจีดีเอชเท่านั้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหนังยังมีอีกหลาย ๆ องค์ประกอบที่ทำได้ถึงแก่น อาจจะยังไม่ใช่ผลงานหนังที่สมบูรณ์แบบทุก ๆ ด้าน แต่ความจัดจ้านก็เป็นหนึ่งในวงการหนังไทยในรอบปีนี้เลย ติดตามเรื่องราวทั้งหมดของหนังได้ที่ hd-2u.com เต็มเรื่อง ไม่มีโฆษณาคั่น ภาพคมชัด ระดับ HD ได้แล้ววันนี้



#ดูหนัง2024 #วิมานหนาม #TheParadiseofThorns #รีวิวหนัง #MovieReview


 
กลับด้านบน

Report this page